บานไม่รู้โรยย..รักมิร้างลา

-

--
----

ครั้งล่าสุด ที่เข้าไปเรียนที่คณะ
เพิ่งสังเกตเห็นว่า ทานตะวันริมรั้ว หายไป
มีเพื่อนบอกว่า มันตายเพราะแดดไม่พอ
แต่จากการใช้สายตามองบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ
คาดว่า คงถูกถอนออกไป
สงสารทานตะวัน
หรือความจริงมันจะอาจจะตายไปเอง แล้วพี่ๆคนดูแลสวน เลยมารื้อออกก็เป็นได้
แล้วต่อไปนี้ จะคอยชื่นชมความงามของทานตะวันได้จากที่ไหน
รูปภาพงั้นซิ??
T^T





สำหรับวันนี้
ดอกไม้ที่จะพูดถึง เป็นดอกไม้ที่เรานำมาใช้ประโยชน์ในเรื่องการเย็บปักถักร้อยดอกไม้สด
และงานใบตอง เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา
เป็นงานไหว้ครูของมหาวิทยาลัย ได้เดินชมพานที่ส่งเข้าประกวดของแต่ละคณะ
บานมิรู้โรย...เป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งของพานเหล่านั้น


ทำให้นึกถึงวันวาน สมัยมัธยม
ช่วงลอยกระทง เคยได้ร่วมลงมือลงแรงช่วยเด็ดกลีบเลี้ยงดอกบานไม่รู้โรย
ถึงแม้จะเป็นแค่หน้าที่ที่ไม่สำคัญหรือเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กน้อย
แต่ก็รู้สึกภูมิใจทุกครั้ง เมื่อกระทงของทางร.ร.ชนะเลิศรางวัล
เช่นกัน
ถึงแม้พานของคณะแพทย์จะไม่มีดอกบานไม่รู้โรยรวมอยู่ด้วย
แต่การที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการลงมือทำ
ก็นำความภาคภูมิใจมาบังเกิดขึ้น
ชนะเลิศที่ 1 เป็นของพวกเราทุกคน ...^ ^
สมกับการนอนบนเก้าอี้หน้าห้องตรวจให้ยุงกัด > < (แอบโปรโมตพานคณะตัวเองนิดนึง)





ดอกบานไม่รู้โรย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Gomphrena globosa Linn.
วงศ์ AMARANTHACEAE
ชื่อสามัญ Bachalor's Button,Button Agaga,Globe Amaranth,Pearly Everlasting
ชื่ออื่นๆ กะล่อม ตะล่อม (ภาคเหนือ) ดอกสามเดือน กุนหยี (ภาคใต้)


ลักษณะทั่วไป
บานไม่รู้โรยจัดเป็นไม้ล้มลุก
ใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะรูปใบหอก รูปขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปรี ปลายแหลม โคนมน มีขนอยู่ทั้งสองด้าน
ดอก มีหลายสี เช่น สีชมพู ม่วง แดง ส้ม และขาว ออกดอกเดี่ยวขนาดเล็กกลม
กลีบดอกแข็งเล็ก จัดเรียงตัวรวมกันอยู่อย่างหนาแน่น ออกดอกตลอดปี
ดอกมีประโยชน์ใช้ประดับตกแต่งในพิธีการต่างๆมากมาย นิยมนำมาจัดพานพุ่ม
เนื่องจากเป็นไม้ดอกที่ทนทาน อยู่ได้นานหลายวัน มีขายอยู่ตลอด
ทนต่อความร้อน ความแห้งแล้งได้ดี จึงเป็นดอกไม้ที่ปลูกง่ายและปลูกในดินชนิดใดก็งอก
สำหรับการขยายพันธุ์ นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ซึ่งง่าย สะดวก รวดเร็ว




นอกจากดอกที่บานและคงทนแล้ว
ดอกบานไม่รู้โรยมีความพิเศษ คือมีสรรพคุณทางยา ดังนี้

1. แก้ตกขาว ใช้บานไม่รู้โรยดอกขาวทั้งต้นและราก ๑ กำมือ ต้ม ผสมกับหัวยา ข้าวเย็น ขนาดเท่าลูกเงาะ ๔ ก้อน
ต้มให้เดือดนาน ๑๐ นาที กินต่างน้ำ กิน ๒ หม้อ

2. ขับปัสสาวะ ใช้ดอกบานไม่รู้โรย ๑๐ ดอก ใส่น้ำ ๑ แก้ว ต้มเดือดนาน ๑๕ นาที ระวังอย่าให้ไฟแรงจนเกินไป ต้มจนเหลือน้ำ ครึ่งแก้ว กินให้หมด ต้มกินวันละ ๓-๔ ครั้ง

3. ประจำเดือนไม่ปกติ ใช้ต้นบานไม่รู้โรยดอก ขาว ทั้ง ๕ ต้มกินเสมอ เป็นยาขับล้างโลหิตให้บริสุทธิ์

4. แก้นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ให้เอารากต้นบานไม่รู้โรยดอก ขาว ประมาณ ๑ กำมือ กับรากต้นมะละกอตัวผู้ ๑ กำมือ
ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้ นำมาล้างน้ำให้สะอาด สับเป็นท่อนๆ ใส่หม้อดิน ใส่น้ำ ๓ ส่วน ต้มเคี่ยวให้เหลือ ๑ ส่วน
ใช้น้ำยากินเพียงครั้งเดียว ได้ผลยิ่งนัก

5. แก้บิด ใช้ดอกบานไม่รู้โรย ๑๐ ดอก ต้มน้ำผสมเหล้าเล็กน้อย กินวันละ ๓ ครั้ง แก้บิด

6. แก้ไอ เอาดอกบานไม่รู้โรย ทั้งดอกขาวและดอกแดง อย่างละ ๑ กำมือ ต้มกินเวลาไอ

7. แก้หนอนคัน คันมาก ผิวหนังเน่าเปื่อยเป็นแผลเพราะถูก ตัว หนอน ให้เอาบานไม่รู้โรยตำกับปูนกินหมาก
ผสมน้ำเล็กน้อย ทาตรง แผลเปื่อย จะหาย หรือบริเวณที่คัน

8. แก้หอบหืด และหลอดลมอักเสบ ใช้ดอกทำเป็นยาเม็ด แต่ละ เม้ดเป็นดอกแห้งใหม่ๆ หนัก ๓.๒ กรัม ให้กินครั้งละ ๒ เม็ด วันละ ๓ เวลา กินติดต่อกัน ๑๐ วัน กิน ๑๐ วัน คิดเป็น ๑ รอบ ให้กินติดต่อกัน ๒ รอบ อาการจะดีขึ้น แต่ถ้าใช้ทั้งต้น ไม่รวมช่อดอก ทำเป็นยาเม็ด ละ ๓.๒ กรัม ให้กินครั้งละ ๓ เม็ด วันละ ๓ เวลา และรักษาเป็นรอบ เหมือน ช่อดอก ผลการรักษาดีขึ้น ใช้แก้หอบหืดทีเกิดจากหลอดลม อักเสบได้ดี

10. ขับเสมหะ มีตัวยา ฟิลาโนน มีฤทธิ์ขับเสมหะในลำคอ สารตัวนี้ ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์

11. แก้หอบหืด ใช้ดอกบานไม่รู้โรย ๑๐ ดอก ผสมเหล้าขาว กินวัน ละ ๓ ครั้ง

ถือว่าเป็นดอกไม้อีกพวกหนึ่ง ที่มีประโยชน์มากมายจริงๆ






ว่ากันว่า
ดอกบานไม่รู้โรยถูกเปรียบเสมือน...
ความรักที่มั่นคง เนานาน ไม่มีวันสูญสิ้น
ถึงแม้ตัวดอกจะไร้ซึ่งกลิ่น แต่ความเบ่งบาน ความคงทน
ดังเช่น..ความรักที่จะ มั่นคง ดำรงอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ห่างหาย แม้ยามห่างไกล
จะจริงหรือเปล่า??
อันนี้ คงต้องขึ้นกับหัวใจคนแล้วล่ะมั้ง..



3 comments:

ช่างเป็นกุลสตรีโดยแท้~

เคยกินชาบานมิรู้โรยครั้งนึงค่ะ ตอนงานโอท๊อปที่ไหนสักแห่ง
เจ้าแม่ปลื้มมากอยากจะซื้อแต่ต้องถูกเจ้าคุณยายปรามเพราะมันทำเองได้ - -
ที่บ้านแทบจะปลูกเป็นไร่เลยทีเดียว เพราะแค่เด็ดเอาขุยๆ ตรงดอกของน้องหญิงท่านแล้วเอาไปตากแดดให้แห้งเกือบเกรียม แล้วก็เอาไปหว่าน ๆ ไม่นานน้องหญิงก็พร้อมใจกันบาน แทบจะกลายเป็นไร่เลยตอนนี้ ที่น่าแปลกคือ ยังไม่เคยเห็นน้องหญิงสีเขียวกับสีน้ำเงินมาก่อนเลยค่ะ เพิ่งจะเคยเห็นตอนทำกระทงสมัยเรียนไฮสกูลที่ร้อยเอ็ดวิทยาลัย >> ความจริงแล้วเค้าเอาไปผ่านกระบวนการทางศิลปภาพ พ่นสีน้องหญิงซ๊า

เป็นบทความที่มีสาระมากค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ ๆ ที่เอามาฝากกันนะคะ ชวนให้รำลึกถึงตอนที่อาจารย์กวาดต้อนให้ลงไปช่วยเสียบหมุดเหลือเกิน~
*พานคณะงามมากค่ะ ^O^/




by, Ann Sohee KKU46NU39

 

ชอบดอกบานไม่รู้โรยมากอ่า

ที่บ้านปลูกด้วย

เห็นเมื่อไหร่อยากกลับบ้าน

คิดถึงแม่ :))

 

ขอบคุณสำหรับบทความนะฮะ
อ่านแล้วอยากเป็นหอบหืดบ้าง อะไรบ้าง
ชอบวิธีการเอาดอกบานมิรู้โรยมาอะแด๊บฮ่ะ

หลังมอกานไหม?

 

Post a Comment